หลักสูตรพัฒนาตนเองเพื่อสร้างความสำเร็จกับดร.หนูนา

บริการฝึกอบรมในรูปแบบOnline&Onsite

สำหรับกลุ่ม องค์กร


หลักสูตร พัฒนาบุคลิกภาพในการทำงาน การขายและการให้บริการ (หลักสูตรยอดนิยม) 

หลักสูตรนี้เหมาะกับ

พนักงานขาย พนักงานให้บริการ ผู้บริหารทุกระดับ บุคลากรทุกฝ่ายในองค์กร นักศึกษาทุกชั้นปี ทุกเพศ ทุกวัย

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1.เกิดการตระหนักรู้ในตนเอง เห็นจุดเด่นและจุดที่ต้องพัฒนา

2.เพิ่มเสน่ห์ทางการคิดและจิตใจ

3.มีบุคลิกภาพภายนอกที่สง่างาม

4.เสริมภาพลักษณ์ด้านความน่าเชื่อถือ เป็นมิตรและมืออาชีพ

หัวข้อการอบรม 

1.ความสำคัญของบุคลิกภาพและผลกระทบที่เกิดจากบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม

2.สำรวจบุคลิกภาพที่ดีและบุคลิกภาพที่เกิดปัญหาในการทำงาน พร้อมวิธีการจัดการ

3.ประเมินบุคลิกภาพของตนเองเพิ่มเติมเพื่อหาจุดพัฒนาใน 4 มิติ

4.ตั้งเป้าหมายบุคลิกภาพภายในและภายนอกให้มีเสน่ห์

5.พัฒนาบุคลิกภาพใน 3 มิติ คือ Mindset Appearance Communication โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านความน่าเชื่อถือ มืออาชีพและเป็นมิตร 

5.1 Mindset & Self-Empowerment สร้างบุคลิกภาพภายในให้มีเสน่ห์ด้วยสมองและจิตใจ โดยฝึกมองเห็นคุณค่าในตนเอง ฝึกคิดเชิงบวก (Positive Mindset) ที่จะช่วยให้แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น ฝึกคิดแบบเติบโต (Growth Mindset) เพื่อนำตนเองสู่การพัฒนาอย่างต่อเนื่อง 

5.2 Appearance เสริมสร้างบุคลิกภาพนอกในการปรากฏกายให้น่าประทับใจ ด้วยการ 

Scan and Set ปรับอวัยวะสำคัญทั้ง 6 เข้าสู่แกนกลาง ไม่ยื่น ไม่ค่อม ไม่ย้วย เพราะอวัยวะที่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสร้างทั้งสุขภาพที่ดีและภาพลักษณ์ที่สง่างาม

ปรับบุคลิกภาพ 3ระยะ ได้แก่ 

    1.บุคลิกภาพระยะไกล ปรับท่วงท่าการเดินให้ดูสมาร์ท กระตือรือร้น

    2.บุคลิกภาพระยะกลาง ปรับท่วงท่าการยืน ตำแหน่งการยืน ตำแหน่งการเก็บมือ การถือเอกสาร การใช้ภาษามือในขณะยืน การไหว้ก่อน-หลังให้บริการ มารยาทการรับ-มอบนามบัตร การนั่งตรงและนั่งแบบเก็บเรียวขา แนะนำการแต่งกายแบบสมาร์ท

    3.บุคลิกภาพระยะใกล้ ได้แก่ การใช้ลำตัวส่วนบน การฝึกควบคุมสีหน้า การสร้างสีหน้าให้ดูมีชีวิตชีวาพร้อมให้บริการ การยิ้มแบบ Real & Warm มารยาทการสบตา

5.3 Communication

   ฝึกปฏิบัติการใช้โทนเสียงเสริมบุคลิกภาพ ได้แก่ ระดับความสูง ต่ำ หนัก เบา เพื่อสร้างความน่าเชื่อถือและเป็นมิตร และเน้นความสำคัญของการใช้คำเพื่อให้ผู้ฟังเกิดความรู้สึกเชิงบวก

รูปแบบการอบรม บรรยาย 30 ฝึกปฏิบัติ 70  ผู้ดำเนินการอบรม ดร.นทษร สุขสารอมรกุล 

สอบถามค่าบริการได้ที่ 0993344222 หรือ คลิ๊กสอบถาม 

ชมภาพการอบรม

 

.

หลักสูตร การสื่อสารอย่างมีประสิทธิภาพ (Effective Communication(ได้รับคะแนนสูงสุดจากองค์กรเอกชนปี64-65) 

หลักสูตรนี้เหมาะกับ ทุกเพศ ทุกวัย โดยเฉพาะวัยทำงาน และองค์กรที่ต้องการเน้นการสื่อสารภายในและสื่อสารกับลูกค้า 

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1.เสริมความมั่นใจทั้งภายในและภายนอกของผู้ส่งสาร

2.เข้าใจกระบวนการสื่อสารมากขึ้น 

3.มีเทคนิคการสื่อสารที่ดีในการทำงานและการเข้าสังคม 

หัวข้อการอบรม  

1.ทฤษฎีการสื่อสารและความสำคัญของการสื่อสาร

2.การสื่อสาร รูปแบบ Passive, Aggressive, Assertive, Passive-Aggressive

3.พูดให้ดีเริ่มต้นจากการคิด

 เพราะการสื่อสารที่ไม่มีประสิทธิภาพ เกิดจากหลายสาเหตุเช่น พูดไม่มีประเด็น พูดวกวน พูดแบบหาจุดเชื่อมโยงไม่ได้ พูดห้วนๆ เป็นต้น ซึ่งการสื่อสารที่ดีต้องเริ่มจากเข้าใจสิ่งที่เรากำลังคิดและสร้างรูปแบบการคิดที่เหมาะสม

4.พื้นที่ปลอดภัยในการสื่อสาร

  เรียนรู้การสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตวิทยาในการสื่อสารเพื่อให้บรรยากาศการสื่อสารเป็นไปอย่างราบรื่นด้วยการฟังและถามอย่างเหมาะสม

5.สื่อสารในสถานการณ์ที่ความคิดเห็นไม่ตรงกัน

  หัวข้อการสื่อสารที่เราคิดว่าเป็นหัวข้อที่ปลอดภัย แต่อาจนำไปสู่หัวข้อที่รุนแรงและเกิดความขัดแย้งได้ เช่น การถามถึงความเป็นอยู่บางครั้งอาจนำไปสู่การถกเถียงเรื่องค่าแรงและการเมืองได้ ดังนั้นทักษะการรับมือกับความขัดแย้งจึงเป็นสิ่งที่สำคัญเพื่อให้ผู้สื่อสารควบคุมสถานการณ์ไว้ได้

6.Get to the Point

 ปัญหาจากการสื่อสารที่ตอบไม่ตรงประเด็น พูดไม่ตรงประเด็น หรือถามแล้วผู้ฟังจับประเด็นไม่ได้ อาจทำให้การสื่อสารยืดเยื้อและอีกฝ่ายอาจไม่ได้สาระในประเด็นนั้นๆ

7.T P E E P

   ถึงแม้จะมีข้อมูลที่มีคุณภาพแต่ถ้าอธิบายไม่ชัดเจน ไม่เห็นภาพจะไม่สามารถทำให้ผู้อื่นคล้อยตามได้ เทคนิค T P E E P เป็นการลำดับรูปแบบประโยคที่จะช่วยให้อธิบาย ขยายความ ตอบคำถามได้ชัดเจน เห็นภาพมากขึ้น

8.Focus On Benefit 

  การสื่อสารเพื่อให้อีกฝ่ายเห็นประโยชน์และความสำคัญเพื่อขอความร่วมมือเป็นหลัก

9.Powerful Words

   เทคนิคการสร้างคำที่ทรงพลัง เพื่อปลุกพลัง เกิดการจดจำ และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

10.เรียนรู้การใช้คำเพื่อสร้าง Positive Emotion และ เลี่ยงNegative Emotion ในสถานการณ์ต่างๆ 

11. Voice Characteristics

   เรียนรู้คุณสมบัติของน้ำเสียง โทนเสียง 4 แบบ โดยเฉพาะเสียงที่เหมาะสมในการสื่อสารกับลูกค้า เพราะเสียงคือการสร้างบรรยากาศสามารถสร้างความรู้สึกที่ดีแด่ผู้ฟังได้ 

12.Body Language ฝึกปฏิบัติภาษากายและการควบคุมสีหน้าในการสื่อสารให้ดูเป็นมิตร สุภาพและมีความเป็นมืออาชีพ โดยการปรับบุคลิกภาพ 2 ระยะ

 บุคลิกภาพระยะกลาง ปรับท่วงท่าการยืน ตำแหน่งการยืน ตำแหน่งการเก็บมือ การใช้ภาษามือ การไหว้ก่อน-หลังให้บริการ การนั่งตรงและนั่งแบบเก็บเรียวขา 

  บุคลิกภาพระยะใกล้ ได้แก่ การใช้ลำตัวส่วนบน การฝึกควบคุมสีหน้า การสร้างสีหน้าให้ดูมีชีวิตชีวา การยิ้มแบบ Real & Warm มารยาทการสบตาทางธุรกิจ

รูปแบบการอบรม บรรยาย 30 ฝึกปฏิบัติ 70  

อบรมโดย ดร.นทษร สุขสารอมรกุล

สอบถามราคาได้ที่ 0993344222 หรือ คลิ๊กสอบถาม

หลักสูตร "Professional Service"

  ทักษะการให้บริการคือทักษะที่สำคัญในโลกยุคปัจจุบัน เมื่อองค์การต้องการสร้างประสบการณ์ที่ดีแด่ผู้รับบริการ ผู้ให้บริการจึงเป็นปัจจัยหลักในการส่งมอบคุณค่านั้นทั้งให้บริการโดยหน้าที่และให้บริการโดยจิตวิญญาณ แต่การให้บริการอย่างมืออาชีพจะไม่เกิดขึ้นหากปราศจากการพัฒนาใน 3 มิติ คือ วิธีคิดอย่างผู้ให้บริการมืออาชีพ (Service Mindset) ภาพลักษณ์การแสดงออกอย่างเหมาะสมและการสื่อสารในงานบริการ ทั้งนี้ก็เพื่อมุ่งเน้นการส่งมอบ 3 สิ่งให้แก่ผู้รับบริการได้แก่ ประสบการณ์ที่ดี ความคุ้มค่าและความสุข 

หัวข้อการอบรม ชั่วโมง

Pro Thinking ผู้ให้บริการที่ดีควรมีรูปแบบวิธีคิดอย่างไร 2 ชั่วโมง (บรรยาย+กิจกรรมกลุ่ม)

1. Service Quality Model เข้าใจความความคาดหวังของผู้รับบริการ 5 ด้าน

2.สร้างจิตวิญญาณการให้บริการผ่านคำถาม 5 ข้อ เช่น “วันนี้เราได้ทำให้ลูกค้ายิ้มแล้วหรือยัง” “เราจะทำให้ลูกค้า....ขึ้นได้อย่างไร” เป็นต้น “

Pro Image ยกระดับภาพลักษณ์ผู้ให้บริการ 1.30 ชั่วโมง (ฝึกปฏิบัติ)

1.แนะนำการดูแลสุขลักษณะ การแต่งกาย เสื้อผ้า หน้าผม พร้อมทำเช็คลิสต์ภาพลักษณ์ 20 จุด 

2.ฝึกปฏิบัติภาษากาย ท่วงท่าให้ตื่นตัว เตรียมพร้อม มีพลังในการทำงานและการแสดงสีหน้าที่ยิ้มแย้มเข้ากับแต่ละสถานการณ์

Pro Communication 2.30 ชั่วโมง (กิจกรรมกลุ่ม)

วิธีสื่อสารกับผู้รับบริการใน 5 สถานการณ์

1.เมื่อผู้รับบริการพบปัญหาในการเข้ารับบริการ ซึ่งปัญหาสามารถเกิดได้ทุกขณะแต่หากมีวิธีการสื่อสารที่เป็นรูปแบบชัดเจนจะเป็นเครื่องมือให้จัดการสถานการณ์ได้อย่างมืออาชีพ

2.เมื่อพบความผิดพลาด ทั้งกรณีที่ผู้รับบริการเป็นฝ่ายทำผิดพลาดและทางผู้ให้บริการเป็นฝ่ายทำผิดพลาด เพราะการใช้คำบางคำสามารถกระตุ้นจากที่ไม่พอใจอยู่แล้วทวีความโกรธขึ้นได้อีก เพียงแค่ใช้คำให้ถูก ปรับโทนให้ได้ มีแนวโน้วจะทำให้ผู้ฟังเปิดใจและให้ความร่วมมือแก้ไขสิ่งนั้นๆได้

3.เมื่อผู้รับบริการมีข้อร้องเรียน การยืนฝั่งเดียวกับผู้รับบริการจะทำให้เข้าใจข้อร้องเรียนและความต้องการได้

4.ผู้รับบริการร้องขอในสิ่งที่ผู้ให้บริการไม่สามารถให้ได้ เพราะบางครั้งความต้องการที่มากจนเกินขอบเขตของผู้ให้บริการและองค์กรจะบริการให้ได้ การสื่อสารอย่างเหมาะสมสามารถทำให้อีกฝ่ายเข้าใจได้ 

5.ไม่มีข้อมูลที่เพียงพอในการอธิบายหรือตอบคำถาม ด้วยข้อมูลขององค์กรที่มีมากหรือผู้ให้บริการยังไม่มีประสบการณ์ที่เพียงพอต่อการอธิบายหรือตอบคำถาม จึงต้องมีทางออกในการสื่อสารโดยยังคงความน่าเชื่อถือและผู้รับบริการยังคงได้รับข้อมูลที่ต้องการด้วย

 

...

หลักสูตร เสริมทักษะการคิดเชิงบวกและความสุขในการทำงาน หลักสูตรปี2566(ใหม่) 

หลักสูตรนี้เหมาะกับ

1.องค์กรภาครัฐ เอกชนที่ต้องการปลุกพลังการทำงาน เสริมสร้างความคิดเชิงบวกและสร้างความสุขให้กับบุคลากร

2.บุคคลทั่วไปที่ต้องการเสริมพลังในการคิด การจัดการอารมณ์ ความรู้สึกและต้องการสร้างความสุขให้กับตนเอง 

ประโยชน์

1.รู้ความคิดและจัดการความรู้สึกของตนเองได้ดีขึ้น

2.สะสมการคิดเชิงบวกได้ดียิ่งขึ้น 

3.มีวิธีสร้างความสุขกับตนเองและส่งมอบให้คนรอบข้างได้

4.เสริมสร้างสุขภาพจิตที่ดีให้แก่ตนเอง 

5.มีความคิดสร้างสรรค์และการแก้ไขปัญหาที่ดีขึ้น 

หัวข้อ 

1.พลังของความคิด 

            ทำไมดูรูปอาหารแล้วรู้สึกหิว กลืนน้ำลายและท้องร้องทั้งที่ไม่มีอาหารจริงๆ ทำไมเหตุการณ์ที่เรากังวลแต่เพื่อนกลับสบายใจและผ่านมันไปได้ ความคิดพัฒนามาจากอะไรและพลังของความคิดก่อให้เกิดอะไร

2.Self-Awareness 

           เท่าทันความคิด เท่าทันอารมณ์ เท่าทันร่างกาย เพราะจุดเริ่มต้นของการจัดการคือการมองเห็น 

3. Self-Talk จัดการเสียงวิจารณ์ ความคิดที่วิ่งอยู่ภายในตัวเรา 

            หากมีคนกำลังวิจารณ์ ตำหนิ ดุด่าเราทุกครั้งที่ทำผิดพลาด เราจะมีพลังฟื้นตัว จะมีกำลังใจ จะพบกับความสุขได้อย่างไร เริ่มจัดการเสียงแรกคือเสียงที่มาจากตัวเรา 

4.สร้างเส้นทางสมองสู่นิสัยการคิดบวก

          เพราะสมองมีการเชื่อมต่อเส้นทางใหม่ๆตลอดเวลา จึงต้องฝึกคิดเพื่อสร้างโครงข่ายสมองที่มีประสิทธิภาพ ฝึกการคิด 4 รูปแบบ 1.คิดสร้างสรรค์ เพื่อมองเห็นความเป็นไปได้อื่นๆ 2.ฝึกคิดใน 4มุมมอง เพื่อขยายกรอบการคิดให้กว้างและรอบด้าน 3.ฝึกคิดเชิงบวก เพื่อเชื่อมโยงความคิด ความรู้สึก และพฤติกรรมสู่การเปลี่ยนแปลงของผลลัพธ์ 4.ฝึกมองเห็นคุณค่า เติมความรักให้ตนเอง (Self-Esteem)  

5.การจัดการอารมณ์ 

         เรียนรู้ธรรมชาติและประโยชน์ของอารมณ์ทั้งเชิงบวกและเชิงลบ มีการจัดการอารมณ์ที่เป็นระบบ ยอมรับ เข้าใจ จัดการ โดยเฉพาะความเครียดและความกังวล 

6.กิจกรรมสร้างสุข 

            ฝึกสะสมกิจกรรมที่สร้างความสุขในหลายรูปแบบภายใต้เงื่อนไขที่กำหนด 

 สอบถามค่าบริการได้ที่ 0993344222 หรือ คลิ๊กสอบถาม

ชมภาพการอบรม

หลักสูตร พัฒนาบุคลิกภาพและเทคนิคการแต่งหน้า (หลักสูตรเน้นภาพลักษณ์)

หลักสูตรนี้เหมาะกับ

พนักงานขาย พนักงานให้บริการ ผู้บริหารทุกระดับ บุคลากรทุกฝ่ายในองค์กร นักศึกษาทุกชั้นปี ทุกเพศ ทุกวัยโดยเฉพาะสุภาพสตรี

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1.เกิดการตระหนักรู้ในตนเอง เห็นจุดเด่นและจุดที่ต้องพัฒนา

2.มีรูปแบบการคิดใหม่และรู้วิธีการจัดการอารมณ์ของตนเอง

3.มีบุคลิกภาพภายนอกและการแต่งหน้า ทำผมที่สง่างาม

หัวข้อการอบรม 

1.ความสำคัญของบุคลิกภาพและผลกระทบที่เกิดจากบุคลิกภาพที่ไม่เหมาะสม

2.สำรวจบุคลิกภาพที่ดีและบุคลิกภาพที่เกิดปัญหาในการทำงาน พร้อมวิธีการจัดการ

3.ประเมินบุคลิกภาพของตนเองเพิ่มเติมเพื่อหาจุดพัฒนาใน 4 มิติ

4.ตั้งเป้าหมายบุคลิกภาพภายในและภายนอกให้มีเสน่ห์

5.พัฒนาบุคลิกภาพใน 2 มิติ คือ Mindset & Appearance โดยมุ่งเน้นผลลัพธ์ด้านความเป็นมืออาชีพและน่าประทับใจ 

   5.1 Mindset สร้างบุคลิกภาพภายในให้มีเสน่ห์ด้วยวิธีการคิด โดยฝึกมองเห็นคุณค่าในตนเอง ฝึกคิดเชิงบวก(Positive Mindset) ที่จะช่วยให้แก้ปัญหาในสถานการณ์ต่างๆและควบคุมอารมณ์ได้ดีขึ้น

   5.2 Appearance เสริมสร้างบุคลิกภาพนอกในการปรากฏกายให้น่าประทับใจ ด้วยการ 

    Scan and Set ปรับอวัยวะสำคัญทั้ง 6 เข้าสู่แกนกลาง ไม่ยื่น ไม่ค่อม ไม่ย้วย เพราะอวัยวะที่อยู่ในตำแหน่งที่เหมาะสมสร้างทั้งสุขภาพที่ดีและภาพลักษณ์ที่สง่างาม

   ปรับบุคลิกภาพ 3ระยะ ได้แก่ บุคลิกภาพระยะไกล ปรับท่วงท่าการเดินให้ดูสมาร์ท กระตือรือร้น บุคลิกภาพระยะกลาง ปรับท่วงท่าการยืน ตำแหน่งการยืน ตำแหน่งการเก็บมือ การถือเอกสาร การใช้ภาษามือในขณะยืน การไหว้ก่อน-หลังให้บริการ มารยาทการรับ-มอบนามบัตร การนั่งตรงและนั่งแบบเก็บเรียวขา บุคลิกภาพระยะใกล้ ได้แก่ การใช้ลำตัวส่วนบน การฝึกควบคุมสีหน้า การสร้างสีหน้าให้ดูมีชีวิตชีวา การยิ้มแบบ Real & Warmมารยาทการสบตา ฝึกปฏิบัติแต่งหน้าและทำผม 

รูปแบบการอบรม บรรยาย 30 ฝึกปฏิบัติ 70  ผู้ดำเนินการอบรม ดร.นทษร สุขสารอมรกุลและวิทยากรแต่งหน้า

ฝึกปฏิบัติแต่งหน้าทุกท่านจำกัด 25ท่าน/กลุ่ม แต่งหน้าแบบสาธิต40 ท่าน/กลุ่ม    

ชมภาพการอบรม

หลักสูตร เทคนิคการนำเสนอและการพูดในที่สาธารณะ 

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1.สร้างรูปแบบการนำเสนอที่เป็นสไตล์ของตนเองได้อย่างน่าประทับใจ

2.มีภาพลักษณ์ผู้นำเสนอที่ดูเป็นมืออาชีพ

3.นำเทคนิคไปปรับใช้ในการนำเสนองานและพูดในที่สาธารณะได้อย่างมั่นใจ

4.มีความคิดสร้างสรรค์ในการออกแบบการนำเสนอมากขึ้น

หัวข้อการอบรม

1.ทฤษฎีการสื่อสารและวัตถุประสงค์การนำเสนอที่ควรรู้

2.ปลุกพลังสมอง เตรียมพร้อมการนำเสนอ

         กิจกรรมกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์เพื่อออกแบบการนำเสนอรูปแบบใหม่ๆ

3.วิเคราะห์ผู้ฟังและจิตวิทยาเพื่อการเข้าถึง

          เรียนรู้จิตวิทยาการรับรู้ของผู้ฟังเพราะผู้ฟังฟังเรื่องราวมาเป็นร้อย จะทำอย่างไรให้ผู้ฟังสนใจ วางสิ่งที่กำลังคิดอยู่แล้วเงยหน้าขึ้นมาฟังด้วยความตั้งใจ เข้าใจสิ่งที่นำเสนอและจะเชื่อมโยงกับผู้ฟังได้อย่างไร

4.ปรับบุคลิกภาพและการสื่อสาร

            4.1บุคลิกภาพช่วยทำให้เกิดความน่าเชื่อถือ การเข้าถึงและยังดึงดูดสายตาผู้ฟังให้สนใจผู้พูดได้ ประกอบด้วยการยืน การเดิน การนั่ง การใช้ลำตัว การใช้ภาษามือ การแสดงสีหน้า ซึ่งภาษากายจะช่วยเสริมน้ำหนักของข้อมูลและผู้นำเสนอจะดูมืออาชีพขึ้นอีก 55% 

            4.2ลักษณะของเสียงในการนำเสนอเปรียบเสมือนปากกาไฮไลท์ข้อมูลที่สำคัญให้กับผู้ฟัง ประกอบด้วยโทนเสียงสูง กลาง ต่ำ หนัก เบา เว้นวรรค การหยุดในจังหวะที่เหมาะสม การออกเสียง สำเนียงที่ชัดเจน 

            4.3เรียนรู้การสร้างคำที่ทรงพลัง (Powerful Words) เพื่อโน้มน้าว จดจำ และกระตุ้นให้เกิดการเปลี่ยนแปลง

5.สร้างรูปแบบการนำเสนอด้วยเทคนิค 3S

            Spark Curiosity เทคนิคจุดประกายความอยากรู้ของผู้ฟัง

            Smooth Transition เชื่อมประเด็นได้(flow) ไม่หลุดแก่น (Key)

            Strong Call to Action ปิดท้ายอย่างทรงพลัง

 6.ฝึกปฏิบัติการนำเสนอและตอบคำถาม

ระยะเวลาอบรม 6 ชั่วโมง กรณีต้องการอบรม 3ชั่วโมงกรุณาติดต่อทีมงาน

รูปแบบการอบรม บรรยาย 40 ฝึกปฏิบัติ 60

ผู้ดำเนินการอบรม ดร.นทษร สุขสารอมรกุล 

หลักสูตร วิทยากรมืออาชีพ (ใหม่)

     หลักสูตรวิทยากรมืออาชีพออกแบบมาเพื่อเน้นการพัฒนาบุคลิกภาพ ทักษะการสื่อสาร พร้อมทั้งเส้นทางของการเป็นวิทยากรแบบ SMART&ELEGANT และเป็นต้นแบบนักสื่อสาร แบบ POWERFUL& CONFIDENT 

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1.ได้เรียนรู้เคล็ดลับการเป็นวิทยากรตั้งแต่เริ่มต้นถึงขั้นปฏิบัติงานจริง

2.มีเทคนิคการนำเสนอ การสร้างภาพลักษณ์ที่ดูมืออาชีพ

หัวข้อ

1.คุณค่าของวิทยากร

         คุณค่าในการทำงานของเราคืออะไร เป้าหมายในการทำงานวางไว้อย่างไร และอยากเป็นวิทยากรมืออาชีพต้องมีอะไรติดตัวบ้าง มาร่วมสำรวจไปด้วยกัน!

2.Balancing Personality

        สร้างบุคลิกภาพที่มีเสน่ห์ทั้งภายในและภายนอกด้วย Masculine Energy และ Feminine Energy

3.Powerful Body Language 

        ตำแหน่งการยืนบนเวทีเทคนิคการยืนให้ดูมั่นใจและมีพลังการพักขาการวางตำแหน่งปลายเท้า,การเปิดลำตัวเทคนิคลุกนั่งให้ดูสง่าการเคลื่อนไหวร่างกายน้อยแต่ดูมีพลังการเว้นระยะห่างขณะสนทนา, วิธีการพักมือขณะพูดให้ดูมืออาชีพ, วิธีการเดินให้ดูSmart, ระยะห่างของก้าวการแกว่งแขนการจัดลำตัวให้ตรงจังหวะการเดินให้มีมาดการถือของขณะเดิน, วิธีการนั่งให้ดู Elegant,การวางตำแหน่งมือ,การนั่งแบบเปิดลำตัว,การวางขาและปลายเท้า-วิธีการใช้ไมค์ในแบบต่างๆการส่งไมค์การเช็คไมค์, วิธีการกวาดสาตาระดับการมองมารยาทการสบตาเวลาในการสบตาการสบตาแบบเป็นมิตร, เทคนิคการยิ้มแบบจริงใจ (Real Smile) และเทคนิคการยิ้มแบบอบอุ่น (Warm Smile), การใช้ภาษามือในการนำเสนอ การผายมือ ,

4.จิตวิทยาการเข้าถึงผู้ฟังที่วิทยากรควรรู้

       เรียนรู้เทคนิคที่จะทำให้วิทยากรเข้าถึงผู้ฟัง เป็นที่ชื่นชอบและได้รับการยอมรับจาก ได้แก่ การมีพื้นที่ปลอดภัย  การเสริมแรงเชิงบวก มีEmpathy การฟังและเคารพ ความง่ายและคุ้นชิน การเปิดใจหากพบสิ่งที่รู้

5.เทคนิคการนำเสนอ 3 S 

     Spark Curiosity เทคนิคจุดประกายความอยากรู้ของผู้ฟัง

     Smooth Transition เชื่อมประเด็นได้(flow) ไม่หลุดแก่น (Key)

     Strong Call to Action ปิดท้ายอย่างทรงพลัง              

6.การเล่าเรื่องให้น่าสนใจด้วยเทคนิคของนักพูดมืออาชีพ W.L.I.A.G

7.การออกแบบหลักสูตร ค่าบริการและการดูแลลูกค้า 

ชมภาพการอบรม

จิตวิทยาการสื่อสารและสอนงาน (ใหม่)

เหมาะสำหรับ หัวหน้างาน และผู้ที่ต้องการเข้าใจจิตวิทยาการสื่อสารมากในการทำงาน

ประโยชน์ที่จะได้รับ

1.เข้าใจความคิด จิตใจ พฤติกรรมของบุคคลอย่างเป็นระบบ แบบแผน2

2ปรับใช้การสื่อสารที่เหมาะสมกับบุคล เหมาะสมในแต่ละสถานการณ์ได้

3.ทำให้บุคคลรอบข้างเกิดความประทับใจการสื่อสารมากขึ้น

หัวข้ออบรม

1.ทฤษฎีการรับรู้ของมนุษย์และกลไกป้องกันตน (Defense Mechanism)

            เข้าใจกลไกการรับรู้ของสมองมนุษย์และการป้องกันตนเอง เพื่อให้หัวหน้างานเลือกวิธีเข้าหาคู่สนทนาได้อย่างเปิดใจ

2.จิตวิทยาการฟังและสร้างพื้นที่ปลอดภัยทางจิตใจ (Psychological Safety)

            เข้าใจการเปิดพื้นที่ที่ปลอดภัยทางจิตวิทยาให้กับคู่สนทนาโดยการฟัง การถาม ชะลอการตัดสิน การต่อว่า การตำหนิ และความรู้สึกเชิงลบอื่นๆ เพราะพื้นที่ที่อันตรายจะทำให้คู่สนทนาเก็บความคิด ความรู้สึกที่แท้จริง ซึ่งส่งผลให้หัวหน้างานไม่ทราบปัญหาที่แท้จริง ทำให้แก้ปัญหาได้ไม่ตรงจุด

3.คุณค่าและการเข้าอกเข้าใจ

            เข้าใจวิธีคิดที่จะฝึกให้ตนเองมองเห็นคุณค่าของตนเอง สิ่งรอบตัวและคุณค่าของเพื่อนร่วมงานเพื่อนำไปสู่การสื่อสารที่ให้เกียรติ เคารพและเสริมพลังให้กับทีมได้ 

4.เทคนิคสอนงานให้เข้าใจง่าย ตรงประเด็น 

            เมื่อรู้ว่ามนุษย์มีการรับรู้อย่างไรและวิธีไหนที่จะสร้างความง่ายต่อการเข้าใจจะทำให้หัวหน้างานออกแบบการสื่อสารที่เข้าใจง่ายและตรงประเด็นได้

5.เทคนิคการปรับคำให้เป็นเชิงบวกใน

            เพราะความรู้สึกเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ที่สื่อสารดีต้องพูดรู้เรื่องและรักษาความสัมพันธ์ขณะสื่อสารได้ เรียนรู้การเลือกใช้คำในสถานการณ์ต่างๆที่อาจทำให้คู่สนทนาเกิดความรู้สึกเชิงลบและเปลี่ยนมาให้เกิดความรู้สึกเชิงบวก เช่นการให้คำแนะนำ ชี้จุดแก้ไข การตามงาน เป็นต้น

6.การเลือกใช้โทนเสียงและการรับรู้ของเสียง

            เพราะเสียงคือการสร้างบรรยากาศ อยากให้บรรยากาศ การรับรู้เป็นไปในลักษณะไหน จัดการเสียงเป็นสิ่งสำคัญ

ระยะเวลาอบรม 3 ชั่วโมง 

ผู้อบรม ดร.นทษร สุขสารอมรกุล

Visitors: 586,720